วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

บทที่ 6 ข้อ 3

ตอบหากนักเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาโปรแกรมคำนวณเกรดเฉลี่ยของนักเรียนในโรงเรียน นักเรียนจะเลือกใช้ภาษาปาสคาล ภาษาจาวา หรือภาษาเดลฟายในการเขียนโปรแกรมดังกล่าว เพราะเหตุใดตอบ. จะให้เลือกภาษาปาสคาล เพราะว่าเป็นภาษาในกลุ่มโปรแกรมแบบโครงสร้าง ซึ่งมุ่งเน้นให้มีการแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนย่อยๆชัดเจนจากนั้นจึงค่อยเชื่อมโยงทำให้สามารถจัดการได้โดยง่าย ภาษปาสคาลจึงเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับสร้างพื้นฐานความคิดในการเขียนโปรแกรมโครงให้แก่นักเรียน สามารถให้ทักษะในการเขียนโปรแกรมอย่างมีหลักเกณฑ์และถูกต้อง และสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย

บทที่ 6 ข้อ 2




บทที่6 หลักการแก้ปัญหากับภาษาคอมพิวเตอร์

1.ให้นร.วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหาต่อไปนี้
1.1 หาพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมใดๆ เมื่อสูตรในการคำนวณพื้นที่รูปสามเหลี่ยมคือ 1/2 x สูง x ฐาน
ตอบ 1.การระบุข้อมูลเข้าข้อมูลเข้าก็คือ ความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ
2.การระบุข้อมูลออกจากโจทย์สิ่งที่เป็นคำตอบของปัญหาคือพ.ท.ของรูปสามเหลี่ยมนั้น
3.การกำหนดวิธีการประมวลผลโจทย์ต้องการหาพ.ท.ของสามเหลี่ยม ก็นำความสูงและความยาวฐานของรูปสามเหลี่ยมใดๆ มาเข้าในสูตรหาพ.ท.สามเหลี่ยมมีขั้นตอนของการประมวลผลดังนี้
3.1รับค่าความสูงและความยาวของรูปสามเหลี่ยม
3.2 นำมาเข้าสูตร 1/2 x สูง x ฐาน (ได้ผลลัพธ์)
1.2 การคำนวณหาจำนวนเงินในบัญชีฝากแบบประจำที่มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ8ต่อปีเมื่อนายสมชายฝากเงินครบ5ปีด้วยเงินต้นครั้งแรกจำนวน 1,000บาท
ตอบ 1.การระบุข้อมูลรับเข้าคือ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี เงินต้นครั้งแรก 1,000 บาท นายสมชายฝากเงิน 5 ปี
2.การระบุข้อมูลออกคือ จากโจทย์สิ่งที่ต้องการหาคือจำนวนเงินทั้งหมดที่นายสมชายมีในบัญชีให้เป็นตัวแปร Y
3.การกำหนดวิธีการประมวลผลโจทย์ต้องการจำนวนเงินทั้งหมด สามารถสรุปเป็นขั้นตอนในการประมวลผลได้ดังนี้
3.1 หาจำนวนเงินดอกเบี้ยที่ได้ในแต่ละปีดอกเบี้ย 8% ต่อปี
ปีแรก ได้ 1000 x 8/100 = 80 เงินในบัญชีปีแรก =1,080
ปีที่ 2 ได้ 1080 x 8/100 = 86.4 เงินในบัญชีปีที่ 2 = 1080 + 86.4= 1,166.4
ปีที่ 3 ได้ 1166.4 x 8/100 = 93.3 เงินในบัญชีปีที่ 3 = 1166.4 + 93.3 = 1,259.7
ปีที่ 4 ได้ 1259.7 x 8/100 = 100.8 เงินในบัญชีปีที่ 4 = 1259.7 + 100.8 = 1360.5
ปีที่ 5 ได้ 1360.5 x 8/100 = 108.8 เงินในบัญชีปีที่ 5 = 1360.5 + 108.8 = 1469.3
เพราะฉะน้น y = 1469.5 บาท หรือ นายสมชายมีเงินในบัญชีธนาคารเมื่อครบ 5 ปี คือ 1469.50 บาท
1.3ตอบ
1.การระบุข้อมูลเข้าจากโจทย์ข้อมูลเข้าคือ
- นักเรียนมีทั้งหมด 30 คน
- คะแนนเต็ม 100 คะแนนมีเกณฑ์ให้คะแนนคือ > 80 ได้เกรด 4
70-79 ได้เกรด 3
60-69 ได้เกรด 2
50-59 ได้เกรด 1
2.การระบุข้อมูลออกต้องการเกรดเฉลี่ย ของนร. ชั้นม. 4 จำนวน 30 คน
3.การกำหนดวิธีการประมวลผล
1.นำคะแนนเก็บของนักเรียนทั้ง 30 คน มาตรวจสอบ ว่าแต่ละคนได้ เกรดอะไร
2.นำเกรดของทั้ง 30 คนมาบวกกัน
3.นำเกรดที่บวกได้/จำนวนนร.ทั้งหมด
4.ได้เกรดวิชาเทคโนโลยีและสารสนเทศของนร.

บทที่ 5 ความหมายของซอฟต์แวร์

1.จงบอกความหมายของซอฟต์แวร์ความหมายของซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ (computer software)หรือเรียกสั้นๆ ว่า ซอฟต์แวร์ (software)เป็นส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ซอฟต์แวร์นั้น นอกจากจะสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ยังสามารถใช้งานบนเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์อื่นเช่นโทรศัพท์มือถือหรือหุ่นยนต์ในโรงงานหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ คำว่า "ซอฟต์แวร์" ใช้ครั้งแรกโดย จอห์น ดับเบิลยู. เทอร์กีย์ (John W. Turkey) ในปี พ.ศ. 2500(ค.ศ. 1957) โดยแนวคิดของซอฟต์แวร์ปรากฏครั้งแรกในเรียงความของแอลัน ทัวริง ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์ เพราะเป็นลำดับขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำงานแตกต่างกันได้มากมายด้วยซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ การที่เราเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานให้กับเราได้มากมาย เพราะว่ามีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาให้เราสั่งงานคอมพิวเตอร์ ร้านค้าอาจใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อน บริษัทขายตั๋วใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบการจองตั๋ว คอมพิวเตอร์ช่วยในเรื่องกิจการงานธนาคารที่มีข้อมูลต่าง ๆ มากมาย คอมพิวเตอร์ช่วยงานพิมพ์เอกสารให้สวยงาม เป็นต้น การที่คอมพิวเตอร์ดำเนินการให้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาลจะอยู่ที่ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ หากขาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีความสำคัญมาก และเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศเป็นไปได้ตามที่ต้องการ

2.อธิบายประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ประมวลคำนอกเหนือจากที่กล่าวในบทเรียนมา 3 ข้อ
1. เราสามารถนำรูปมาใส่ได้
2. เราสามารถนฎแผนภูมิได้
3. ทำตารางได้

3.ระบบปฏิบัติการมีหน้าที่อะไร
1) ช่วยในการบูตเครื่อง (Booting) การบูตเป็นกระบวนการเริ่มต้นเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยเมื่อมีการเปิดเครื่องในขณะที่เครื่องปิดอยู่จะเรียกว่า Cold Boot ส่วนการเปิดเครื่องในขณะที่เครื่องเปิดใช้งานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการกดปุ่มรีเซต หรือกดปุ่ม Ctrl + Alt + Del ก็จะเรียกการบูตชนิดนี้ว่า Warm Boot เมื่อทำการบูตเพื่อให้โปรแกรมระบบปฏิบัติการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้วผู้ใช้งานจึงสามารถที่จะโต้ตอบกับระบบเพื่อสั่งการ หรือใช้งานได้
2) ควบคุณอุปกรณ์และการทำงานของคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการจะจัดการกับอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง และสอดคล้องกันโดยอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด เมาส์ เครื่องพิมพ์ หรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ติดตั้งเข้าไปจะสามารถทำงานประสานกันได้อย่างลงตัว
3) จัดสรรทรัพทยากรในระบบ ทรัพยากรในระบบมีมากมาย รวมถึงทรัพยากรบางตัวที่มีจำกัด เช่น CPU ที่มีอยู่เพียงตัวเดียว แต่จำเป็นต้องถูกเรียกใช้งานเพื่อประมวลผลจากโปรแกรมและอุปกรณ์ต่างๆ ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงจำเป็นที่จะต้องจัดสรรการทำงานให้ทำงานอย่างลงตัว

4.จงอธิบายลักษณะของซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทางซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทาง เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสำหรับนำไปใช้งานเฉพาะด้าน หรือในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น โปรแกรมช่วยจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริการลูกค้า ฯลฯ ตามปกติจะไม่ค่อยได้พบเห็นซอฟต์แวร์ประเภทนี้ในท้องตลาดทั่วไป แต่จะซื้อหาได้จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูงกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานทั่วไป โครงสร้างของซอฟต์แวร์เฉพาะทางมักจะประกอบด้วย ฐานข้อมูลเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้า และระบบของงาน ภายในซอฟต์แวร์ควรจะมีส่วนทำงานประมวลคำเพื่อใช้สร้างรายงาน ติดต่อโต้ตอบจดหมาย และการนัดหมายตามกำหนดการ ลักษณะของซอฟต์แวร์เฉพาะทางนี้ มีทั้งรูปแบบที่มีผู้ใช้งานคนเดียว หรือผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคน ในประเทศไทยมีการใช้ซอฟต์แวร์ประเภทใช้งานเฉพาะทางอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตต่างประเทศได้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุรกิจ ในที่นี้ได้รวบรวมจัดประเภท ไว้ดังนี้
1) ซอฟต์แวร์ระบบงานด้านบัญชี ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินทรัพย์ถาวรและค่าเสื่อมราคาสะสม บัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีเงินเดือน
2) ซอฟต์แวร์ระบบงานจัดจำหน่าย ได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้อสินค้า ระบบงานบริหารสินค้าคงคลัง ระบบงานควบคุมสินค้าแบบจำนวนและรายชิ้น และระบบงานประวัติการขาย
3) ซอฟต์แวร์ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบงานกำหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การวางแผนกำลังการผลิต การคำนวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิตหลัก การวางแผนความต้องการวัสดุ การควบคุม การทำงานภายในโรงงาน การกำหนดเงินทุนมาตรฐานสินค้า และการกำหนดขั้นตอนการผลิต
4) ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้แก่ ระบบการสร้างรายงาน การบริหารการเงิน การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และการเช่าซื้อรถยนต์

5.อธิบายประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ตารางทำงานนอกเหนือจากที่กล่าวในบทเรียนมา3ข้อ
1เรายังสามารถทำกราฟเส้น
2 ทำแผนผังองค์กรณ์ได้
3เรียงลำดับตัวอักษรได้

6.จงบอกประโยชน์ของซอฟต์แวร์จักการข้อมูลจากลักษณะความแตกต่างระหว่างระบบฐานข้อมูลกับแฟ้มข้อมูล จะเห็นได้ว่า ระบบฐานข้อมูลมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า ซึ่งหน้าที่ในการจัดการต่างๆ เป็นของซอฟต์แวร์ดีบีเอ็มเอส ผลประโยชน์จากการใช้ซอฟต์แวร์นี้ สรุปได้ดังนี้
- ควบคุมความซ้ำซ้อนของข้อมูล
- ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล โดยการกำหนดระดับของการเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้อง
- เตรียมส่วนติดต่อกับผู้ใช้ แม้ในกรณีที่มีผู้ใช้หลายๆคนพร้อมกัน
- นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่ซับซ้อนได้เป็นอย่างดี
- ควบคุมข้อบังคับต่างๆ ของข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
- ดูแลส่วนการสำรองข้อมูล (Back up) และการกู้ข้อมูล (Recovery) ของฐานข้อมูล

7.แอสแซมบลีเป็นภาษาบาระดับใด และมีลักษณะอย่างไรภาษาแอสเซมบลี เป็นภาษาระดับต่ำ ที่มีความใกล้เคียงกับภาษาเครื่อง คือ แทนที่จะเขียนคำสั่งในรูปแบบของภาษาเครื่อง ก็ใช้คำสั่งในรูปสัญลักษณ์แทน คำสั่งภาษาแอสเซมบลีหนึ่งคำสั่ง จึงแปลไปเป็นภาษาเครื่องหนึ่งคำสั่ง เป็นลักษณะคำสั่งต่อคำสั่ง อย่างไรก็ตามเพื่อให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึ้น ภาษาแอสเซมบลีจึงมีคำสั่งอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ได้แปลไปเป็นคำสั่งภาษาเครื่อง เรียกว่า ไดเร็คทีฟ (directive) ใช้เพื่อกำหนดข่าวสารให้กับแอสเซมเบลอร์ เช่น กำหนดตำแหน่ง ขนาด และค่าเริ่มต้นของข้อมูล เป็นต้น

8.ตัวแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
มี2ประเภท
1 คอมไพเลอร์
2อินเทอร์พรีเตอร์